Dior Lady Art #9

Vaughn Spann เป็นศิลปินชาวอเมริกันที่เกิดในรัฐนิวเจอร์ซีย์ ซึ่งสร้างสรรค์ผลงานที่มีชีวิตชีวาและแสดงออกถึงการผสมผสานองค์ประกอบนามธรรมและที่เป็นรูปธรรม เขามักทดลองสำรวจธีมที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และอัตลักษณ์ของชาวแอฟริกันอเมริกัน ซึ่งปรากฏผ่านการใช้สีสันและพื้นผิวที่หลากหลาย รวมถึงตัวละครของนิยายวิทยาศาสตร์ที่มีวิวัฒนาการจากจินตนาการในนิทานร่วมสมัย การผสมผสานที่มีพลังและลึกซึ้งของเขาซึ่งเป็นผลงานการเปลี่ยนแปลงขอบเขตดั้งเดิมของศิลปะและการบอกเล่าถึงการอยู่ร่วมกันของสิ่งมีชีวิตนั้น ต่างสอดแทรกด้วยสัญลักษณ์ที่โดดเด่นเป็นระยะ ช่วยกระตุ้นอารมณ์และชวนให้คิดต่อ แนวทางเดียวกันนี้ยังปรากฏอยู่ในผลงาน Lady Dior อันเป็นเอกลักษณ์ของเขาที่เล่นกับอัตลักษณ์ของ Dior ด้านความเป็นชายและหญิง เขาได้นำเอารุ่นแรกที่เป็นทรงโอเวอร์ไซส์มาใช้ พร้อมตีความรูปทรงและการใช้งานได้จริงของกระเป๋าเอกสารยุค 1980 ใหม่ ออกมาเป็นกระเป๋าโปร่งใสและแต่งแต้มด้วยสีชมพู และยังโดดเด่นด้วยเครื่องหมาย "X" ที่ตรงกลางซึ่งเป็นลวดลายในผลงานของ Spann ส่วนใบที่สองประดับด้วยโครงสร้างทรงเรขาคณิตจากหลากหลายผลงานบนผืนผ้าใบของเขา ในขณะที่สองใบสุดท้ายเป็นตัวแทนภาพวาดของเขาจากปี 2020 มีชื่อว่า Firestorm และ Untitled (stormy) ซึ่งมีเอฟเฟกต์การใช้วัสดุที่โดดเด่น ความโล่งและคอนทราสต์ และ "ป๊อป" แบบสบายๆ ที่น่าหลงใหล

ศิลปินชาวจีน Liang Yuanwei มักจะมุ่งเน้นไปที่มุมมองในชีวิตประจำวันและกาลเวลาที่ผันไป ถ่ายทอดผ่านผืนผ้าใบที่มีพื้นผิวเพื่อแสดงออกถึงความพิถีพิถัน การจัดวางองค์ประกอบที่ละเอียดอ่อนของเธอได้กำเนิดเป็นภาษาภาพใหม่จากลวดลายซ้ำๆ และภาพวาดดอกไม้ ผสมผสานมรดกทางวัฒนธรรมเข้ากับความสร้างสรรค์ สำหรับรุ่นที่เก้าของ Dior Lady Art นี้ ศิลปินได้แรงบันดาลใจจากซีรีส์ Golden Notes ของเธอที่นำกลับมาตีความใหม่ในกระเป๋าอันสุดไอคอนิก ออกมาเป็นผลงานสุดพิเศษชิ้นนี้ที่รังสรรค์ขึ้นจากเรซินโดยใช้กระบวนการพิมพ์ 3 มิติ คั่นด้วยการประดับดอกไม้นานาชนิด เผยให้เห็นถึงผิวสัมผัส การผสมผสานระหว่างวัสดุและความรู้สึกได้อย่างเหนือจินตนาการ เอฟเฟกต์ตกแต่งนี้ช่วยเน้นความงามอันบริสุทธิ์ของรอยร้าวบนเซรามิกที่จำลองจากแจกันสมัยราชวงศ์ซ่งซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของแรงบันดาลใจที่อยู่เบื้องหลังการออกแบบนี้ นำเสนอในพาเลตต์โทนสีเขียวที่แสดงถึงความหรูหราจากอาณาจักรพงไพร กระเป๋าอันน่าหลงใหลนี้ตกแต่งเก็บรายละเอียดด้วยโลหะสีทองแอนทีคที่ชวนให้นึกถึงเครื่องปั้นดินเผา Ru Ware ในขณะที่หูจับและสายสะพายไหล่ชวนให้นึกถึงหยกอันเลอค่า

Duy Anh Nhan Duc ศิลปินชาวเวียดนามผู้เกิดที่โฮจิมินห์-วิลล์และอาศัยอยู่ที่ปารีสนี้ได้ให้ธรรมชาติเป็นองค์ประกอบสำคัญของผลงานของเขา ศิลปินผู้หลงใหลในพฤกษศาสตร์สร้างสรรค์ผลงานศิลปะโดยจัดวางรายละเอียดอันไร้ขอบเขตซึ่งประกอบด้วยพืชต่างๆ เช่น ดอกแดนดิไลออน ดอกซัลซิไฟเออร์ ดอกทิสเทิล ข้าวสาลี และโคลเวอร์ ที่จะเชิญชวนให้เรามาสำรวจธรรมชาติใหม่อีกครั้ง ผลงานของเขาที่ผ่านการเก็บรวบรวมข้อมูลอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยนั้นได้ถ่ายทอดเรื่องราวอันน่าทึ่งในวัฏจักรแห่งชีวิตซึ่งปัจจุบันเปราะบางมากกว่าที่เคย สำหรับ Dior Lady Art นั้น ทาง Duy Anh Nhan Duc ต้องการตีความใหม่ให้สามารถสะท้อนถึงความหลงใหลในพืชสวนและความรู้สึกที่เขาได้รับเสมอเมื่อสัมผัสกับความงดงามของโลกแห่งพืช ผลงานการนำเสนอ Lady Dior ของเขาประดับประดาด้วยรายละเอียดอันเขียวชอุ่มมากมาย รวมถึงลวดลายดอกไม้ที่มีลายนูนบนหนังโดยทุกองค์ประกอบเป็นวีแกนทั้งหมด พร้อมเสริมด้วยโครงตาข่ายและงานปักอันล้ำค่า การจัดวางพืชต่างๆ อันน่าอัศจรรย์ ประดับด้วยดอกไม้และกิ่งก้านที่ตกแต่งโลหะปิดทองอย่างประณีต เผยให้เห็นเส้นสายที่เชื่อมแต่ละใบราวกับลายแกะสลัก และปิดท้ายให้ดูน่าอัศจรรย์ด้วยเถาวัลย์สีทองพันรอบหูจับของกระเป๋าสุดพิเศษนี้ซึ่งล้อมรอบดอกแดนดิไลออนอันละเอียดอ่อนที่บรรจุอยู่ในหยดเรซินหนึ่งอันเป็นเอกลักษณ์ของศิลปินผู้นี้ ให้ดูราวกับเป็นเครื่องรางลับสุดพิเศษ

Anna Weyant เกิดที่เมืองคัลการี ประเทศแคนาดา ได้รับอิทธิพลที่หลากหลาย ตั้งแต่ยุคทองของเหล่ายอดศิลปินชาวดัตช์ไปจนถึงแนววัฒนธรรมป๊อปร่วมสมัย ภาพวาดโครงร่างที่สื่อถึงความเศร้าของเธอถูกนำมาแต่งแต้มด้วยสไตล์เหนือจริงและความลึกลับ ทำให้เกิดการตั้งคำถามถึงธรรมเนียมปฏิบัติทางสังคมและอัตลักษณ์ของความเป็นผู้หญิงผ่านรูปบุคคลหรือหุ่นนิ่ง โดยมีบรรยากาศที่ชวนให้คิดถึงและบางครั้งก็น่าสับสนระหว่างแสงและเงา
เธอถ่ายทอดทรรศนะที่เป็นทั้งการผจญภัยและเจือความเศร้าโศก รวมถึงผสานความละเอียดอ่อนอันลึกซึ้งอยู่เสมอ ออกมาเป็นการสร้างสรรค์ Lady Dior ที่ตีความใหม่โดยศิลปินมากฝีมือผู้นี้ เวอร์ชันขนาดกลางชวนให้นึกถึงลายไม้ ซึ่งเป็นลวดลายที่พบในผลงานของเธอหลายชิ้น และทันใดนั้นเองก็มีดอกกุหลาบและดอกเดซี่ที่คั่นระหว่างกลางช่วยให้ผลงานของเธอดูราวกับมีชีวิตขึ้นมา และกลายร่างเป็นชิ้นงานศิลปะประดับอยู่ที่ด้านบนของกระเป๋า เป็นการเชิดชูความเป็นเลิศของเฮาส์ เส้นกราฟิกของลายเย็บ Cannage อันเป็นเอกลักษณ์ได้รับการตีความใหม่อีกครั้งในรูปแบบลวดลายที่ละเอียดอ่อนแต่งแต้มด้วยลวดลายมาร์กาเร็ตในสวน

ผสานการอนุรักษ์สิ่งดั้งเดิมและการคิดค้นสิ่งใหม่เข้าด้วยกัน Jeffrey Gibson ได้สร้างสรรค์ผลงานหลากสีสันที่ผสมผสานงานฝีมือแบบดั้งเดิมของชนพื้นเมืองอเมริกันเข้ากับสุนทรียภาพที่ฉูดฉาดและเกือบจะชวนให้เคลิ้มฝัน ในฐานะศิลปินผู้มีความสามารถรอบด้าน เขารวมการวาดภาพ ประติมากรรม การแกะสลัก สิ่งทอ และวิดีโอเป็นหนึ่งเพื่อสื่อสารการสร้างความเข้าใจแบบธรรมชาติ ผลงานสร้างสรรค์ของเขามีพลังทางคำพูด สโลแกนติดหูหรือบทเพลงร่วมสมัยอย่างเรื่องเล่าจากเจ้าตัวเองและเฉลิมฉลองแด่ผู้ที่ถูกลืมและคนชายขอบ สิ่งเหล่านี้เป็นการเชิญชวนให้ผู้คนกลับมาพิจารณา (อีกครั้ง) ถึงชีวิตประจำวันและสังคมผ่านมุมมองแห่งศิลปะ ความหลงใหล และความฝัน และ Jeffrey Gibson ก็ได้นำจักรวาลอันเป็นเอกลักษณ์ของเขามาประดับไว้บน Lady Dior ด้วย โดยเปลี่ยนแปลงรูปแบบให้มีความ "ป๊อป" อย่างแน่วแน่ การตกแต่งนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากกระสอบทรายสำหรับการชกมวยของเขาที่นำมาตีความใหม่ในฐานะงานศิลปะจัดวาง จากสองขั้วที่เป็นสัญลักษณ์แห่งกีฬาและแฟชั่น เขาได้นำมาใช้ให้แตกต่างไปจากฟังก์ชันดั้งเดิมเพื่อสื่อถึงบทกวีแห่งความรัก ในการผสานรวมสไตล์เรโทรที่น่าหลงใหล กระเป๋าอันเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ Dior นี้ด้านหนึ่งประดับด้วยลูกปัดที่ประดับคำว่า "love, love, love (รัก รัก รัก)" และอีกด้านประดับด้วยแม่กุญแจรูปหัวใจจำนวนมากซึ่งพิมพ์จากเครื่องพิมพ์ 3 มิติ เพื่อเป็นการรำลึกถึงสัญลักษณ์เหล่านี้ที่ส่องแสงระยิบระยับบนสะพานในกรุงปารีส ออกมาเป็นผลงานที่เปี่ยมไปด้วยความสุขและคำประกาศอันอบอุ่นอ่อนโยนทั้งเพื่อตนเองและทุกคนที่คุณรัก 

Danielle Mckinney เกิดในปี 1981 ที่เมืองมอนต์โกเมอรี รัฐแอละแบมา เธอได้ใส่ทุกรายละเอียดของโลกส่วนตัวในภาพบุคคลของเธอซึ่งสื่อถึงความเคลื่อนไหวไม่หยุดนิ่งที่ให้อารมณ์เหมือนดูภาพยนตร์ เธอเสกสรรตัวละครหญิงในพื้นที่ที่มักเป็นที่พักอาศัยและกลายเป็น "ห้องของตนเอง" ในยามที่เธอถ่ายทอดถึงเรื่องราวที่ซ่อนอยู่ มุมมองภาพสะท้อนของสภาพภายในจิตใจ สำหรับช่วยสะท้อนความคิด และช่วงเวลาต่างๆ ในชีวิตของผู้หญิง สไตล์ของเธอซึ่งมีโทนสีที่สดใสและแสงที่ตัดกันอย่างเหลือเชื่อชวนกระตุ้นให้ผู้ชมวิเคราะห์สิ่งที่มองไม่เห็น สิ่งที่ไม่สามารถกล่าวออกมาได้ สิ่งสวยงามที่น่าหลงใหลในชีวิตประจำวัน เผยให้เห็นความกูตูร์ของ Lady Dior ที่แวววาว เผยให้เห็นการเคลื่อนไหวของสีอย่างพิถีพิถัน ผ้าสีแทนซึ่งเป็นฉากหลังที่มีรอยยับเล็กน้อย ถ่ายทอดพื้นผิวอันเป็นสัญลักษณ์ของผืนผ้าใบของเธอออกมาได้สมจริง ตรงกลางมีภาพเงาของเด็กผู้หญิงซึ่งเป็นตัวละครเอกอันเป็นเอกลักษณ์ของศิลปินที่ปักด้วยมืออย่างประณีตทีละเส้นด้าย แสดงออกถึงความสามารถอันไร้ขีดจำกัดของศิลปินที่ชวนให้นึกถึงความเชี่ยวชาญที่แท้จริงและสีสันอันมหัศจรรย์ในภาพของเธอ และการตกแต่งนี้ยังมาพร้อมผีเสื้อที่บินสู่ใจกลางของฉากเพื่อสื่อถึงการผสมผสานจินตนาการที่ลอยล่องไปมา และผีเสื้ออีกตัวหนึ่งในโทนสีที่ซับซ้อนพร้อมแต่งแต้มด้วยสีแดงสดได้กระพือปีกมาจับที่หูจับของกระเป๋า เป็นการตกแต่งอันล้ำค่าเปล่งประกาย ผลงานนี้เป็นการตีความใหม่อันน่าทึ่ง

Hayal Pozanti ได้แสวงหาวัสดุต่างๆ และพยายามเข้าใจลักษณะทางกายภาพของทุกสิ่งบนผืนผ้าใบของเธอ เธอสร้างทิวทัศน์และภาพบุคคลที่เป็นนามธรรมอันน่าอัศจรรย์ด้วยสไตล์ที่เน้นความเขียวชอุ่มและเป็นธรรมชาติด้วยสีสันที่หลากหลายและสดใส ซึ่งเป็นรากฐานความสัมพันธ์ของเรากับการมีชีวิตที่ก่อเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา ผลงานของเธอมีทั้งที่เป็นแนวคอนเซ็ปชวลพอๆ กับแนวที่มีการสื่ออารมณ์ซึ่งเป็นการอุปมาถึงความฉลาดของมนุษย์ โดยการพิจารณาไปที่ตัวละครต่างๆ ซึ่งสมจริงอย่างน่าหลงใหล
สำหรับ Dior Lady Art เธอได้ออกแบบผลงานสามชิ้นวิสัยทัศน์ด้านธรรมชาติอันมหัศจรรย์ของเธอที่เป็นเหมือนกับการเชิญชวนให้ออกสำรวจและเข้าสู่เส้นทางดั่งฝันสู่ใจกลางขุนเขา กระเป๋า Lady Dior สองแบบแรกได้รับการประดับประดาด้วยรายละเอียดที่มีแรงบันดาลใจจากกีฬาเดินป่า ซึ่งเป็นหนึ่งในความหลงใหลของเธอ แผ่นหนังแกะที่ชวนให้นึกถึงซับในรองเท้าเดินป่า ตะขอเกี่ยว พร้อมด้วยฐานรองที่ชวนให้นึกถึงปลายไม้เท้าเดินเขารูปดาว จี้ "D, I, O, R" สุดไอคอนิกได้นำมาตีความใหม่เป็นแบบอักษรอียิปต์โบราณที่ศิลปินคิดขึ้น และจุดสุดท้ายที่ตีความใหม่คือกระเป๋าคลัตช์ที่วาดด้วยมือเผยให้เห็นภาพพาโนรามาของวิวยามกลางคืนที่ขยายออกด้วยก้อนเมฆจากไรน์สโตนซึ่งติดอย่างพิถีพิถันอยู่ท่ามกลางสายฝนดาวตก ส่วนภายในตกแต่งด้วยกระจก นำเสนอการสะท้อนความเป็นตนเองและโลกได้

การประสานกันของความเป็นเลิศทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคตอย่างแท้จริงในผลงานของศิลปินชาวเปรู Sara Flores ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจาก Kené หรือแนวปฏิบัติอันเก่าแก่ที่ถือเป็นหัวใจสำคัญในประเพณีของชาว Shipibo-Conibo ที่อาศัยอยู่ตามลุ่มแม่น้ำ Ucayali ด้วยรากฐานมรดกล้ำค่าทางวัฒนธรรมอันทรงพลัง ผลงานสร้างสรรค์ของเธอเผยให้เห็นเขาวงกตที่เหมือนดั่งมีมนต์สะกด แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงกันในระบบนิเวศของอเมซอน
สำหรับการรังสรรค์ Dior Lady Art ขึ้นมาใหม่นี้ เธอต้องการเน้นย้ำถึงทักษะอันเป็นเอกลักษณ์และประวัติศาสตร์ของชุมชนนี้ และได้ฝันถึงการออกแบบกระเป๋าสองรุ่นที่มีรายละเอียดซึ่งสะท้อนถึงผลงานส่วนตัวของเธอที่ใช้รงควัตถุจากพืช กระเป๋าทั้งสองใบมีลวดลายงูปักอย่างประณีต ดูสวยงามพร้อมผสานลักษณะเฉพาะจากชนพื้นเมืองอย่างการเยียวยาทางจิตวิญญาณ และมีการนำสายตาให้มองไปตามเส้นสวายที่วางไว้อย่างตั้งใจ สำหรับกระเป๋ารุ่นแรกซึ่งมีงูพันอยู่รอบหูจับมาในขนาดกลาง ประดับด้วยกลุ่มลูกปัดสีดำดูแวววาว ส่วนรุ่นที่สองในขนาดมินิประดับประดาด้วยอัญมณีเงินจำนวนมาก ไอเทมที่ใครๆ ต่างก็อยากเป็นเจ้าของนี้จะมอบประสบการณ์ทางประสาทสัมผัสที่ส่องประกายสว่างเจิดจ้ากว่าที่เคยบนความงามอันหลากหลายของประเพณีดั้งเดิม

ผลงานศิลปะของ Woo Kukwon จากเกาหลีใต้ ถ่ายทอดผ่านภาพวาดสีน้ำมัน ภาพวาดบนกระดาษ และงานศิลปะแบบจัดวาง การนำเทพนิยายกลับมาทำใหม่โดยจงใจใช้ทัศนคติแบบเด็กๆ เพื่อการแสดงออกที่ซุกซน องค์ประกอบที่แต่งแต้มอย่างสนุกสนานของเขาได้สะท้อนให้เห็นถึงการอยู่ร่วมกันอย่างไม่มีเส้นแบ่งอย่างชัดเจนระหว่างนิยายและความเป็นจริง โดยผสมผสานองค์ประกอบเชิงรูปธรรมและศิลปะป๊อปอาร์ตเข้าด้วยกัน
มุมมองนี้ส่งผลต่อการแปลง Lady Dior สุดคลาสสิกทั้งห้าแบบของเขา ในกระเป๋าขนาดกลางสองรูปแบบได้มีการนำเสนอตัวละครที่เป็นตัวแทนของภรรยา ลูกสาว และสุนัขของเขา ซึ่งอยู่ในพื้นที่อันน่าหลงใหลสองแห่ง ในแบบแรก พวกเขาจ้องมองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่มีหมู่ดาวพร่างพรายซึ่งทอดยาวออกไปบนเนินเขาที่ตกแต่งด้วยเส้นด้ายสีสันสดใสอ่านได้ว่า "My universe (จักรวาลของฉัน)" เพื่อสื่อถึงลูกสาวตัวน้อยของเขา ส่วนกระเป๋าใบที่สองเป็นภาพพวกเขาเดินเล่นอยู่ใต้ต้นซากุระที่กำลังบานสะพรั่ง ซึ่งเป็นความงดงามของพืชพันธุ์ที่เบ่งบานไปจนถึงหูจับและรูขอบโลหะ แสดงให้เห็นถึงช่องว่างระหว่างความจริงและจินตนาการ กระเป๋าแบบที่สามได้สอดแทรกการเสียดสีอย่างทรงพลังด้วยหมีขั้วโลกที่ปักอย่างพิถีพิถันและข้อความ "Killing me softly (ฆ่าฉันทีละน้อยๆ)" ส่วนรุ่นมินิประดับด้วยเถาวัลย์ปักมุก สีส้ม สีน้ำเงิน สีแดง และสีขาว ซึ่งใช้เลียนแบบการตกแต่งเฟอร์สุดหรูหรา และกระเป๋ารุ่นไมโครประดับด้วยลูกปัดสีดำจำนวนมากดูแวววาวตัดกันกับสัญลักษณ์คำว่า "Christian Dior" ปิดท้ายเป็นเซอร์ไพรส์ที่แสนพิเศษด้วยตัวปิดล็อกรูปจี้รูปสัตว์เลี้ยงผู้ภักดีของเขาที่ทำขึ้นอย่างประณีต